วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ปาย อิน เลิฟ

  เผลอแป๊บเดียว "ลมหนาว" กำลังจะมาเยือนอีกแล้ว หลาย ๆ คนคงกำลังรอคอยลมหนาวให้พัดผ่านมาอีกครั้งใช่มไหมล่ะ เพราะหน้าหนาวเป็นช่วงที่คนไทยชื่นชอบเอามาก ๆ อากาศไม่ร้อนมากนัก (จากที่ร้อนสุด ๆ กันมาแล้วในหน้าร้อน) ฝนฟ้าก็ไม่มีตกให้ต้องกังวลใจ แถมหลาย ๆ จังหวัดในเมืองไทย ก็ยังอากาศดี๊ดี...เย็นสบาย น่าไปพักผ่อนตากอากาศยิ่งนัก บางแห่งก็ปกคลุมไปด้วยไอหมอก ซึ่งเป็นบรรยากาศที่น่าเย้ายวนใจเป็นที่สุด



     และเมื่อนึกถึงสถานที่ขึ้นชื่อในเรื่องการท่องเที่ยวในไอหมอก เมืองสามหมอกอย่าง"แม่ฮ่องสอน" ก็คงจะเป็นอันดับต้น ๆ ที่จะต้องพูดถึง และแน่นอนที่สุด "ปาย" คือเมืองในหมอกที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันถึง ปาย... เมืองเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาสูงตระหง่าน เป็นรอยต่อชายแดนไทย - พม่า ฤดูหนาวอากาศเย็นจัด ที่แห่งนี้มักปกคลุมด้วยสายหมอก ละอองน้ำจาง ๆ ยามเช้า และด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน ทำให้เมือง ปายยังคงความเป็นธรรมชาติ ไว้สูง ความเจริญทางวัตถุยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงที่นี่ได้มากนัก เอกลักษณ์เหล่านี้ดึงดูดนักเดินทางให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของ เมืองปายได้นักต่อนัก




     แน่นอนว่าใครที่ได้มาเยือนเมืองปาย คงอดไม่ได้ที่จะตื่นขึ้นมาสัมผัสไอหมอกตั้งแต่เช้าตรู่ จิบกาแฟหอมกรุ่น พร้อมอาหารเช้าแบบชาวพื้นเมือง หรือถ้าอยากชมบรรยากาศของเมืองก็สามารถเช่าจักรยานขี่เที่ยวชมเมืองได้สบาย ๆ หรือล่องแก่งแม่น้ำปาย ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ หรือจะเลือกขี่ช้าง เดินป่า ก็ย่อมได้ตามสไตล์ของนักลุยเลยล่ะค่ะ

          แต่ถ้าใครอยากท่องเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ แล้วล่ะก็ ที่ปายก็มีตัวเลือกให้คุณ ๆ เพียบ!! ทั้งสถานที่ทางศาสนาอย่าง วัดกลาง ซึ่งภายในวัดมีพระเจดีย์องค์ใหญ่ ศิลปะไทยใหญ่แท้ ประดิษฐานอยู่กลางลานวัด มีเจดีย์ทรงมอญรายล้อมโดยรอบ ใต้เจดีย์ทำเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวัน เหนือฐานเจดีย์องค์ใหญ่ทำเป็นมณฑปยอดมงกุฎ



         หรือหากอยากเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ก็มีให้เลือกเต็มไปหมด อาทิ น้ำตกหมอแปง ซึ่งสามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้สะดวก และมีชาวเขาเผ่ามูเซอแดงอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง บริเวณรอบน้ำตกมีป่ายางร่มรื่น อยู่ห่างจากตัวอำเภอปาย ประมาณ 8 - 9 กิโลเมตร ใกล้กับน้ำตกหมอแปง เป็น น้ำตกม่วงสร้อย แต่ทางเข้ายังไม่สะดวกนัก หรือหากอยากเที่ยวน้ำตกสวย ๆ ใกล้ ๆ เมืองปาย ก็ต้องลองไปเยือน น้ำตกแม่เย็น ซึ่งอยู่ที่บ้านแม่เย็น ตำบลแม่ฮี้ ห่างจากอำเภอปายประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดสูง 3 ชั้น และสวยงามที่สุดของอำเภอปายเลยทีเดียว 



         อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 179.5 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาและภูเขาสูงสลับซับซ้อนมีภูเขาที่สูงที่สุด คือ ดอยช้าง มีจุดเด่นที่น่าสนใจ คือ จุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ตั้งอยู่ที่ตำบลกึ้ดช้าง อำเภอแม่แตง เป็นที่ตั้งของหน่วยพัฒนาต้นน้ำที่ 2 (ห้วยน้ำดัง) เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก นักท่องเที่ยวจะได้ชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ และคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นซึ่งงดงามมาก, จุดชมวิวดอยช้าง อยู่ทางเหนือของห้วยน้ำดัง เป็นจุดที่สามารถมองเห็นสภาพธรรมชาติของทิวเขาอันสลับซับซ้อน และทะเลหมอกในยามเช้าตรู่, น้ำตกห้วยน้ำดัง เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยน้ำดัง มีโขดหินมากมาย มีความสูงประมาณ 50 เมตร กว้าง 10 เมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่ง


       แต่ถ้าใครอยากสัมผัสกับวิถีชีวิตต้องไปเที่ยว หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน (บ้านสันติชล) เป็นหมู่บ้านชาวจีนที่อพยพถิ่นฐานมา อยู่ห่างจากตัวอำเภอปายประมาณ 4.5 กิโลเมตร ห่างจากวัดน้ำฮูเล็กน้อย ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี เช่น การแต่งกาย ภาษา นักท่องเที่ยวนิยมไปชมหมู่บ้านพร้อมรับประทานอาหารจีนยูนนานเป็นอาหารกลางวัน ภายในมีศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนานบ้านสันติชล บริการอาหาร จำหน่ายสินค้าที่ระลึก บริการบ้านพักในชุมชน



      ก่อนจะปิดท้ายด้วยการไปช้อป ชิม เดินชิล ๆ ณ ถนนคนเดินปาย ซึ่งจัดขึ้นในถนนชัยสงคราม บริเวณท่ารถปาย ทั้งถนนจะปิดการจราจร ห้นักท่องเที่ยวเดินเลือกซื้อสินค้า ทั้งจากสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่นของชาวเขา ตลอดจนสินค้าอื่น ๆ ทั่วไป โดยเฉพาะของฝาก ของที่ระลึก เสื้อผ้า รูปภาพ โปสการ์ด ตลอดจนร้านอาหาร ที่พัก แหล่งบันเทิงต่าง ๆ จะมีอยู่เรียงรายในถนนเส้นนี้ ซึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวยอดนิยม คือการเขียนโปสการ์ด ส่งไปจากปาย เมืองปายจึงมีร้านโปสการ์ดและร้านกาแฟ มีอยู่ทั่วไปในถนนคนเดิน



กิจกรรมแนะนำยามเที่ยวปาย...

          ปั่นจักรยานชมเมืองปาย

          เส้นทางปั่นจักรยานสาย เชียงใหม่ – แม่มาลัย - ปาย เป็นเส้นทางที่ท้าทายนักปั่นเสือภูเขาเป็นอย่างมาก เพราะเส้นทางคดเคี้ยว ปั่นเลาะเลี้ยวไปตามหุบเขา สองข้างทางรายล้อมไปด้วยพืชพรรณไม้และป่าเขาลำเนาไพร โดยนักท่องเที่ยวสามารถนำจักรยานมาเอง หรือถ้าไม่สะดวกที่นี่ก็มีบริการจักรยานให้เช่าค่ะ 

          นั่งช้างชมไพร

          โยกซ้ายที... โยกขวาที... กับการนั่งช้างชมไพร เป็นกิจกรรมที่บริการให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินในการชมธรรมชาติอีก อย่างหนึ่ง ท่านสามารถติดต่อบริการนั่งช้างได้ที่ ปางช้างบ้านท่าปาย ใกล้กับท่าปายสปาแค้มปิ้งรีสอร์ท เป็นเส้นทางเดียวกับการไปน้ำพุร้อนบ้านท่าปาย ค่าบริการนั่งช้าง ชั่วโมงละ 500 บาท นั่งได้สองคนต่อช้าง 1 เชือก   

          ล่องแก่งแม่น้ำปาย

          การล่องแก่งแม่น้ำปาย รวมระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ความยากของแก่งมีตั้งแต่ระดับ 1 - 4 ช่วงฤดูฝนอาจจะถึงระดับ 5 ซึ่งมีความยากมาก และระดับน้ำรุนแรง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามและความสนุกสนานตลอดสายน้ำ เช่น เล่นน้ำตกซู่ซ่า ผจญภัยแช่ตัวในบ่อโคลน (วู้ว) กระโดดหน้าผาสูง ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการล่องแก่ง คือ เดือนมิถุนายน - กุมภาพันธ์ของทุกปี  

          ล่องแพยาง

          อำเภอปาย นับว่าเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้ริเริ่มกิจกรรมนี้ การล่องแพยางไปตามสายน้ำ เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองนี้มักจะไม่พลาด โดยส่วนใหญ่โปรแกรมการล่องแก่งจะไปเริ่มที่ลำน้ำของ ในเขต อ.ปางมะผ้า และไปสิ้นสุดที่ลำน้ำปายในพื้นที่ของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ในระหว่างการล่องแก่งท่านจะได้พบกับความสนุกตื่นเต้น การตั้งแค้มป์ในป่า การแช่โคลนจากบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ เพื่อผิวพรรณเปล่งปลั่ง กิจกรรมการล่องแก่งจะมีในช่วงเดือน ต้นเดือนมิถุนายน – กุมภาพันธ์ของปีต่อไป

โอ๊ะโอ้ว... ไม่เพียงเท่านี้นะ หลังจากสนุกสนานเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวปายกันไปแล้ว เราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่ง ที่ขอบอกว่าน่าเที่ยวไม่แพ้ที่ไหน ๆ เลย นั่นคือ... "ปางอุ๋ง" (บ้านรวมไทย) เป็นหมู่บ้านโครงการพระราชดำริปางตอง 2 ในพระบรมราชินูปถัมป์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ลักษณะพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำมีแนวสนที่ปลูกเรียงรายอย่างกลมกลืนและสวยงามมาก ๆ 

          "ปางอุ๋ง" อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง จุดเด่นของที่นี่คือ... เวิ้งน้ำสายหมอกและใบสน... ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ส่องแสงสะท้อนผืนน้ำเป็นลำแสงสีทองผ่านแนวสนเขียวขจี ท่ามกลางบึงน้ำขนาดใหญ่และสายหมอก พร้อมอากาศที่หนาวเย็น (จับใจ) เรียกว่างดงามจนถือได้ว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในเมืองไทย แถมยังมีอากาศที่หนาวเย็น หลายคนบอกว่าที่นี่คือสวิสเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย แต่บางคนบอกว่าที่นี่คือนิวซีแลนด์ (ว้าว...)



          เอาไว้สายลมหนาวปีหน้ามาอีกครั้งเราจะพาไปที่ไหนค่อยติดตามให้ เพราะเมืองไทยของเรามีดีมากมายสำหรับวันนี้ขอลาไปพักผ่อนก่อน สวัสดี !!

www.sanook.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น